วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

แนะนำร้าน SHABU STREET @One Udomsuk


ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ร้าน SHABU STREET คือร้านประจำในดวงใจอีกหนึ่งร้านในย่านบางนาเลยก็ว่าได้ ประมาณว่าถ้านึกถึงชาบู จะนึกถึงที่นี่เป็นที่แรกเลย มากินตั้งแต่เค้าเพิ่งเปิดใหม่ๆ คนยังไม่เยอะมาก จนตอนนี้จะไปแต่ละทีต้องเลือกเวลาให้ดี และที่สำคัญห้ามไปตอนที่หิวจัดๆ เด็ดขาด! เพราะหลังๆ มานี่ไปทีไร ก็ต้องมีคิวให้รอตลอดๆ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ชั้น1 ใน ONE UDOMSUK ใกล้กับทางลงรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข เลย ดังนั้นเรื่องการเดินทางจึงนับว่าสะดวกมาก และหาได้ไม่ยากสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะสามารถเดินเข้าตรงทางออกของโครงการฝั่งถนนสุขุมวิทได้เลย


     แต่สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ จะต้องเข้าทางถนนอุดมสุข ซึ่งก็ไม่ไกลจากหัวถนนมากนัก โดยทางเข้าจะอยู่ด้านซ้ายมือ เห็นตู้แลกบัตรอย่างชัดเจน แต่พอเข้าไปแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้กินง่ายๆ นะ ถ้าไม่มีที่จอดก็ต้องออกมาวนกันอีกรอบ เนื่องจากที่นี่มีที่จอดรถค่อนข้างน้อย แต่ก็อย่าถึงกับกังวลกันมากเกินไปล่ะ แค่เตือนไว้เฉยๆ เท่านั้น เพราะระยะหลังๆ นี่ก็ไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องที่จอดรถเท่าไหร่แล้ว เนื่องจากทางโครงการเค้าเปลี่ยนนโยบายใหม่ให้จอดได้คันละไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น จากเมื่อก่อนให้จอดได้ไม่เกิน 15 นาที เลยทำให้ปัญหานี้น้อยลงไปมาก ในส่วนเรื่องเวลาจอดรถนี่ สำหรับท่านใดที่เข้ามาช๊อป ชิม ชิว ในโครงการนี้ก็จะมีเวลาในการจอดรถให้ต่างกันไป แล้วแต่ว่าท่านจะเลือกใช้บริการที่ร้านใด

    ร้านนี้มี 2 ชั้น โดย ด้านล่างจะมี 2 โซน คือ โซนแรกจะอยู่บริเวณหน้าร้าน เป็นที่นั่งแบบเคาเตอร์บาร์ 1 แถว สำหรับท่านที่มาคนเดียว ส่วนโซนที่สอง ที่อยู่ถัดเข้ามาภายในบริเวณร้าน จะจัดเป็นโต๊ะนั่งตามปรกติ โดยแต่ละโต๊ะ จะมีเพียง 1 หม้อเท่านั้น ดังนั้นสำหรับท่านที่มากัน 2 คน แต่ต้องการรับประทานแบบแยกหม้อ โซนเค้าท์เตอร์บาร์ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีมาก ส่วนโซนที่ 3 จะอยู่ที่ชั้น 2 ให้บริการในสไตล์ญี่ปุ่น เพราะชั้นสองจะไม่มีเก้าอี้ไว้บริการต้องนั่งกับพื้น

   จุดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่สันคอทั้งหมูและเนื้อเป็นหลัก แต่นอกเหนือจากนี้ก็จะมีเมนูอื่นๆ เพิ่มเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกทานด้วย เช่น หอยเชลล์ เบคอน กุ้ง ปูอัด เป็นต้น






    ล่าสุดที่ได้ไปกินมานี่ ก็ตามภาพที่เห็นเลย อาจจะดูไม่ค่อยสวยงาม สีสรรน้อยไปหน่อย เพราะถ่ายจากของที่สั่งมาทานจริงๆ เลยอยากจะขอให้ ไปโฟกัสที่ความสดของผัก และคุณภาพของวัตถุดิบมากกว่า  อ้อ...! เกือบลืม ครั้งนี้ก็ต้องรอคิว (เหมือนเดิม) โดยระหว่างที่รอ จะมีน้องพนักงานยื่นเมนูมาให้ และเตรียมปากกาสำหรับจดเมนูที่เราต้องการ เพื่อให้พอถึงคิวเราแล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาอีก เลยขอสแกนดูแต่ละโต๊ะหน่อยละกันว่าเค้าสั่งอะไรมากินกันบ้างนะ แล้วก็ต้องมาสะดุดกับเด็กผู้ชายคนนึง น่าจะอยู่ประมาณมัธยมต้นได้ น้องเค้ามาคนเดียว นั่งอยู่ที่เค้าท์เตอร์ ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าพอดี แต่ที่น่าสังเกตุคือ ข้างๆ หม้อของเค้ามีแต่จานใส่เกี๊ยวทั้งนั้น และท่าทางการกินก็บอกได้เลยว่าเกี๊ยวเหล่านั้นมันสามารถสร้างความสุขให้น้องเค้าได้มากจริงๆ และจากภาพนั้นทำให้เรารับรู้ได้ว่ามันต้องอร่อยมากแน่ๆ  เลยก้มลงไปเปิดหาในเมนู และก็พบว่าไอ้ที่น้องเค้ากินอยู่นี่คือ เกี๊ยวปู นั่นเอง และก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ แนะนำให้ลองดูนะ 




    ที่เลือกแนะนำร้าน SHABU STREET ก็เพราะที่นี่เค้ารักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบได้อย่างสม่ำเสมอจริงๆ ไม่เคยทำให้รู้สึกผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังมีน้ำซุปที่รสชาดกลมกล่อมกำลังดี และน้ำจิ้มที่มีรสชาดเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนร้านอื่นๆ ที่เคยไปกินมา จากการสอบถาม เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า เป็นสูตรของคุณแม่ของเค้าเอง ซึ่งนอกจากชาบูแล้ว ที่นี่ก็ยังมีอาหารประเภททานเล่นให้ได้ลิ้มลองกันอีกหลายเมนู เช่น ฟองเต้าหู้ทอดกรอบ แซลมอนทอดสอดไส้ชีส เป็นต้น ส่วนเรื่องราคาก็ถือว่าไม่แพง และไม่ถูกจนเกินไป เมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณของวัตถุดิบ เพราะยังทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอยู่

   ถ้าเราลองพิจารณาดูดีๆ จะเห็นได้ว่า แทบทุกร้านที่เป็นร้านอาหารประเภทชาบู โดยมากก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากแต่ละร้านก็ต้องพยายามคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ สดใหม่ มีปริมาณที่ต้องไม่น้อยจนเกินไปมานำเสนอเพื่อจูงใจลูกค้ากันทั้งนั้น จะต่างกันก็แค่ความหลากหลายเท่านั้นเอง ส่วนน้ำซุปแม้ว่าแต่ละที่จะมีสูตรในการปรุงที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายก็กลมกล่อมไม่แพ้กันเลย ซึ่งอันนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสมองซึกขวาแล้วหละ ว่าจะชอบหรือไม่ชอบรสชาดของน้ำซุปในร้านไหนมากกว่ากัน แบบว่า เอาที่สบายใจเลยละกันนะ


   นับได้ว่าร้าน SHABU STREET เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำธุรกิจประเภทอาหาร ที่ประสบความสำเร็จในด้านการสร้างความแตกต่างได้อย่างลงตัว ด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ดของคุณแม่ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ แม้ว่าร้านนี้จะมีวัตถุดิบมาให้เลือกไม่มากมายนัก แต่เพียงแค่วัตถุดิบกลักๆ อย่างสั้นคอสไลด์ทั้งหมูและเนื้อ ที่มีคุณภาพดี ก็สามารถทำให้ร้านนี้อยู่ได้แล้ว ส่วนอย่างอื่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น ก็เป็นเพียงแค่ต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าเท่านั้นเอง ซึ่งในจุดนี้ ถ้ามองในด้านการบริหารแล้วถือว่าดีมาก เพราะจะทำให้สามารถบริหารต้นทุนของวัตถุดิบได้โดยไม่ยากเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น