วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แนะนำร้านอาหารเกาหลี RED SUN @Central Bangna




         สวัสดีค่ะ ที่ผ่านมาก็เคยแนะนำร้านอาหารเกาหลีไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านปิ้งย่าง ร้านไก่ทอด รวมถึงร้านของหวาน ซึ่งเป็นน้ำแข็งใสสไตล์เกาหลี ที่เรียกกันติดปากว่า บิงซู นั่นเอง โดยทุกวันนี้ถ้าพูดถึง บิงซู คงไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่ และวันนี้ที่จะมาแนะนำก็ยังเป็นร้านสัญชาติเกาหลีเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนมาเป็นอาหารประเภทต้มๆ กันบ้าง นั่นก็คือร้าน RED SUN สาขา Central บางนา นี่เอง






          บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล มีส่วนที่ให้นั่งโดยไม่ใช้เก้าอี้อยู่ทางขวาด้านในของร้าน จำนวน  3 โต๊ะ  ส่วนบนกำแพงต่อจากพนักพิง จะมีที่ให้แขวนพวงกุญแจ อารมณ์คล้ายๆ พวงกุญแจคู่รัก แต่สำหรับที่นี่น่าจะเป็นพวงกุญแจของลูกค้าที่มาทานที่ร้านมากกว่านะ (จากการเดาล้วนๆ ค่ะ)



         และนี่คือ อุปกรณ์ประกอบการรับประทาน ซึ่งมีแค่ที่เห็นตามภาพจริงๆ ไม่ว่าคุณจะสั่งอะไรเมนูไหน อาวุธคุณก็มีอยู่เท่านี้แหละค่ะ แค่จานหลุมขนาดเล็ก 1 ใบ ช้อนและตะเกียบสไตล์เกาหลี 1 ชุด กระดาษทิชชู่ 1 แผ่น ย้ำว่า 1 แผ่นจริงๆ นะคะ เพราะบนโต๊ะไม่มีกล่องทิชชู่มาให้เหมือนร้านอื่น นอกจากนี้ก็มีที่รองแก้วน้ำน่ารักๆ ซึ่งก็มีให้เห็นได้ตามร้านอาหารเกาหลีทั่วไปไม่ได้แปลกอะไร แต่ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ก็น่าจะเป็นผ้ากันเปื้อนนี่ล่ะคะ ทุกคนจะมีกันคนละผืน ทีแรกแอบคิดว่าเค้าจะแจกให้เอากลับเป็นของสมนาคุณให้ลูกค้ารึเปล่า เพราะมันค่อนจะเหมือนของใช้ส่วนตัวไปนิดนึง แต่ขอบอกว่าอย่าเอากลับนะคะ เค้าไม่ได้ให้ค่ะ! 555



         การที่ร้านนี้เค้าต้องมีผ้ากันเปื้อนให้ลูกค้า ก็อาจเป็นเพราะที่นี่เค้าขายอาหารประเภทต้มเป็นหลัก แถมตะเกียบกับชอนที่ก็ยังเป็นสไตล์เกาหลีซึ่งทำจากสแตนเลสอีกต่างหาก ลูกค้าบางท่านอาจไม่ถนัด พลาดพลั้งไปอาจทำให้ชุดสวยๆ ที่กะจะใส่มาช๊อปปิ้ง ออกเดท ฯลฯ หรืออะไรก็แล้วแต่เลอะเทอะลงได้ในพริบตา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เอาเป็นว่าอย่าให้ชุดเลอะ เป็นดีที่สุด จริงมั๊ยล่ะคะ

        ส่วนจุดเด่นของร้านนี้ก็คือ ต๊อกป๊อกกี นั่นเอง ดูเผินๆ อาจคิดว่าไม่ต่างจากร้านชาบูทั่วไป แต่จริงๆ แล้วต้องเปรียบกับร้านหม้อไฟมากกว่า เพราะที่นี่เค้าจะมีให้เลือกเป็นชุดๆ ตามเมนูที่อยู่ในป้ายหน้าร้านเลย โดยแต่ละเมนูก็จะต่างกันตรงน้ำซุปและท๊อปปิ้ง เมื่อเลือกได้แล้วน้องพนักงานก็จะถามต่อว่า " เอาเผ็ดระดับไหนคะ " ก็..เอิ่ม อยากแซปมากน้อยก็เลือกเอา ตามที่สบายใจเลยละกัน วันนั้นที่ไปเราเลือกระดับ 2 เพราะเป็นคนกินเผ็ดไม่เก่ง เอาแค่พอหอมปากหอมคอพอ และนี่คือหน้าตาของเมนูที่สั่งมา ท๊อปปิ้งด้วยสันคอหมูสไลด์ ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของทางร้านเลยค่ะ

ชึกซอก ต๊อกปกกี ร้าน Red Sun

         หลายคนเห็นในรูปแล้วคงจะนึกสงสัยใช่มั๊ยคะว่า โหเผ็ดระดับสอง ทำไมสีมันจืดขนาดนี้ มันจะเผ็ดเหรอ ก็ต้องขออธิบายเพิ่มเติมว่า อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายตอนที่น้องเค้าเพิ่งยกมาเสริฟที่โต๊ะค่ะ เค้าจะเอามาวางไว้บนเตาไฟฟ้า พร้อมกับพูดว่า " รอซัก 5 นาทีนะคะ เดี๋ยวจะมา Cooking ให้ค่ะ " อะไรทำนองนี้ เราก็นั่งรอจนน้ำเริ่มเดือด น้องพนักงานก็เข้ามาคลุกเคล้าให้ พร้อมกับแกะสันคอหมูสไลด์ที่มันติดกันมาเป็นปึกเดียวกัน ให้แยกออกจากกันทีละชิ้นๆ อย่างชำนาญ และหลังจากที่น้องเค้าทำการคลุกเคล้าเรียบร้อยพร้อมกินแล้ว หน้าตาก็ออกมาเยี่ยงนี้ค่ะ


        ภาพนี้ทำให้นึกถึงตอนที่ต้มมาม่าในหม้อแล้วรุมกินกับเพื่อนในหอจริงๆ ได้ฟิวล์นั้นเลย แต่ขอบอกเลยว่าเหมือนกันแค่ภายนอกนะคะ ส่วนรสชาดนี่ต่างกันลิบ กินเข้าไปคำแรก หน้าของยูแจซอกนี่ลอยออกมาเลย คิดถึงตอนที่เห็นเค้ากินในทีวี ซึ่งดูหน้าอร่อยมากถึงมากที่สุด จนบางครั้งยังแอบคิดว่าเว่อร์ไปปะเนี่ย! แต่วันนี้ได้ลองมากินเองจริงๆ แล้ว ก็ต้องขอบอกเลยว่า ฟินน์จริงไรจิง มันอร่อยมาก อร่อยแบบที่กลับไปแล้วยังอยากซื้อบะหมี่เกาหลีไปต้มกินเองที่บ้านต่อเลย อ้อ! ยังไงจะขอติแค่ในส่วนของรามยอนนิดนึงละกัน ที่เราว่ามันออกแข็งไปหน่อย ไม่นุ่มหมือนที่เคยกินมาซักเท่าไหร่ แต่โดยรวมก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ยังไงถ้ามีโอกาสก็ยังอยากไปกินอีกอยู่ดี

กุ้งทอดซอสกิมจิ ร้าน Red Sun

          นอกจากเมนูหลักแล้ว ก็ได้สั่งเมนูทอดๆ มาอีก 2 เมนู รูปแรกคือ กุ้งชุบแป้งทอดซอสกิมจิ ซึ่งใช้กุ้งตัวใหญ่มาก แต่บอกตามตรงว่าไม่ประทับใจซักเท่าไหร่ เพราะกัดไปคำแรกนี่น้ำมันชุ่มเลย ส่วนรูปที่สองเป็นไก่ทอดแบบเผ็ด ก้อนเล็กๆ ขาวๆ นั่นคือต๊อกป๊อกกีกรอบๆ อร่อยดีค่ะ และขอบอกว่าอร่อยกว่าไก่อีก อาจเป็นเพราะเราเคยไปกินไก่ทอดของร้าน Bon Chon กับ Kyo Chon มาแล้วก็ได้ เลยคิดว่ารสชาดน่าจะไม่หนีกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะความเผ็ด แต่มันผิดคาดไปหมด ตั้งแต่ขนาดของไก่ ที่ชิ้นค่อนข้างเล็ก แถมความเผ็ดก็ยังไม่ได้ครึ่งของร้านที่เคยไปกินมาเลย อ้อ! ที่สำคัญไก่จานนี้รอนานมาก มากขนาดกินทุกอย่างบนโต๊ะหมดแล้ว คุยจนหมดเรื่องคุยแล้วก็ยังไม่มา ให้น้องไปตามสองสามครั้งได้ แต่ที่เจ็บกว่าการรอคือการโดนแซงคิวนี่สิ มันจี๊ดเลย เพราะตอนที่รอปรากฏว่าโต๊ะข้างๆ ที่มาทีหลังกลับได้ก่อนเราเฉยเลย ToT 

BUL BONG ร้าน Red Sun

         แต่ก็อะนะ เราคนไทยเมืองยิ้มไม่ว่ากันอยู่แล้ว คนเราก็ย่อมมีผิดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา เพราะร้านนี้เค้ายังไม่ได้ใช้ระบบดิจิตอลในการบริการลูกค้านี่นา

        แต่อาหารจานหลักนี่แนะนำเลยนะคะ น่าไปลอง ส่วนอร่อยไม่อร่อยก็ต้องขอใช้คำว่า " หนึ่งคนทำ ล้านคนชิม " ละกันนะคะ ยิ่งเป็นเรื่องอาหารนี่คงบอกแทนกันได้ไม่เต็มปากว่าต้องอร่อยทุกคน จริงมั๊ยคะ ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการกิน และก็อย่าลืมหาเวลาออกกำลังกายด้วยนะคะ

      555 และแล้วก็มีโอกาสได้ไปอีกครั้งจนได้ เลยสั่ง จาจัง ต๊อกปกกี มาลองดูบ้าง หน้าตาก่อน Cooking ก็ประมาณนี้ค่ะ

จาจัง ต๊อกปกกี ร้าน Red Sun

      หลังจากที่น้องเค้ามาบริการ Cooking ให้เรียบร้อย หน้าตาก็เลยออกมาเป็นแบบนี้


       เนื่องจากตัวซอสเป็นสีดำ เลยออกมาเป็นเยี่ยงนี้ ส่วนรสชาดก็ขอบอกว่าใช้ได้เลยนะคะ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบกินเผ็ด หรือไม่สามารถกินเผ็ดได้ หรือมีเด็กน้อยมาร่วมโต๊ะด้วย เพราะน้ำซุปจาจังจะออกรสหวานอ่อนๆ เค็มนิดๆ ซดแล้วก็ชุ่มคอ สดชื่นดีค่ะ 

       นอกจากนี้ก็จะมีที่สั่งเพิ่มอีก 2 อย่าง คือ ปลาหมึกบับเบิ้ลซอสเผ็ด และต๊อกโกชิ ค่ะ ซึ่งขอบอกว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ (เหมือนเคย) สำหรับ Side Dish ของร้านนี้ซักเท่าไหร่ เริ่มจากจานแรกคือ ปลาหมึกบับเบิ้ลซอสเผ็ด ที่เรารู้สึกว่ามันออกจะแข็งไปซักนิดสำหรับเรา คือเกินคำว่ากรอบไปหน่อยน่ะ อิอิ ส่วนต๊อกโกชิ ก็แห้งและแข็งไปนิดเหมือนกัน แต่ที่ประทับใจกลับกลายเป็นต๊อกปกกีย่างเสียบไม้ที่ให้มาเป็นเครื่องเคียง ซึ่งกรอบนอกแต่ข้างในกลับเหนียวนุ่มกำลังดี เลิฟๆ เลย ขอบอก
ปลาหมึกบับเบิ้ลซอสเผ็ด ร้าน Red Sun



ต๊อกโกชิ ร้าน Red Sun

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น