
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่เห็นรถคันนี้มาจอดให้เห็นอีกเลย เศร้าและ เสียดายอย่างแรง ก็แหม...ม ยังไม่ได้ลองชิมเลย ย้ายไปไหนแล้วเนี่ย! คงไปขายที่อื่นแล้วละสิ จะว่าไป ลักษณะเด่นของร้านประเภทนี้ ที่ออกแบบมาให้เคลื่อนที่ได้ ทำให้สะดวกต่อการย้ายเปลี่ยนทำเลไปได้เรื่อยๆ นั้น จะเรียกได้ว่าเป็น "จุดเด่น" หรือ "จุดด้อย" ดีละ เพราะ ข้อดี คือการเปลี่ยนทำเลไปได้เรื่อยๆ ก็เหมือนกับเป็นการเปลี่ยนกลุ่มของผู้บริโภคไปด้วยในตัว ทำให้ไม่เกิดความเบื่อหน่าย ซ้ำซากจำเจ ส่วน ข้อเสีย ก็คือ การที่อยู่ไม่เป็นที่จึงเกิดความไม่แน่นอน ทำให้อาจเสียโอกาสที่จะเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ได้ชิมแต่ร้านกลับย้ายไปแล้ว หรือแม้กระทั่งลูกค้าเก่าที่อยากจะมากินอีกก็จะหมดโอกาส จนอาจกล่าวได้ว่า ความไม่แน่นอนนี่ เป็นได้ทั้งจุดเด่นและจุดด้อยจริงๆ
สุดท้ายวันหนึ่ง บังเอิญผ่านไปแถวซอยอุดมสุข 49 เลยรู้ว่าเค้าย้ายมาเปิดร้านเป็นเรื่องเป็นราวแล้วนี่เอง โดยร้านนี้จะอยู่ติดกับร้านเช็งซิมอี้ สะท้านโลกันต์เลย ทีแรกเค้ามีเก้าอี้แค่ในร้านเท่านั้น แต่ไม่ทันไร ก็ต้องเพิ่มโต๊ะมาตั้งที่ริมฟุตบาท โดยมีร่มเหลืองสดใสทุกโต๊ะ ทำให้บริเวณนั้นดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก จนในที่สุดก็ต้องจัดโต๊ะมาเพิ่มบริเวณหน้าร้านจนเต็มพื้นที่ไปหมด ดูเนืองแน่นคึกคักซะจริงๆ ที่สำคัญ ผ่านไปทีไร ก็ยังไม่เคยเห็นโต๊ะว่างเลยซักที
สุดท้ายก็ได้ไปเป็นลูกค้าจนได้ ภาพบรรยากาศในร้านก็ประมาณนี้ มีมุมน่ารักๆ ด้วยนะ
ส่วนอาหารที่สั่งวั้นนั้นก็มี สเต็ก สปาเก็ตตี้ ไส้กรอกรวม ซึ่งต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่มีรูปไส้กรอกมาให้ดู แต่ยืนยันได้ว่าอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ สามารถพูดได้เลยว่า คุณภาพภัตตาคาร ราคาริมถนนได้เลยค่ะ ก็จะไม่ให้คุณภาพดีได้งัยล่ะ ก็เจ้าของร้านเป็นเชฟที่เมืองนอกมาก่อนตั้งหลายปี (ถ้าจำไม่ผิดเกือบสิบปีได้มั้ง)
ด้วยคุณภาพอาหารที่่เรียกได้ว่า อร่อยระดับภัตตาคารแต่ราคาข้างทาง ของร้านนี้ ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนกันมากมายขนาดนี้ ถ้าใครได้มีโอกาสผ่านไปแถวอุดมสุข 49 ก็อยากให้ลองแวะมาชิมดูนะคะ ร้านเค้าเปิดตั้งแต่บ่ายสี่โมงปิดสี่ทุ่มค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น